‘ทักษิณ’ แนะ รบ. คุยเยาวชน ปม ม.112 เพื่อถวายความภักดีที่ถูก

‘ทักษิณ’ แนะ รบ. คุยเยาวชน ปม ม.112 เพื่อถวายความภักดีที่ถูก

ทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กพูดถึงกรณีพิพาท ม.112 ชี้ รัฐบาลใช้อำนาจไม่ถูกต้อง แนะควรจับเข่าคุยกับเยาวชน เพื่อถวายความภักดีอย่างถูกต้อง นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ อดีตนายกรัฐมนตรีได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และได้มีการพูดถึงการที่พรรคการเมืองต่างๆเริ่มออกมาแสดงท่าทีต่อมาตรา ม.112 และ ม.116 ซึ่งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลได้ออกมาประกาศจะหาทางแก้กฏหมายฉบับดังกล่าว

โดยอดีตนายกฯได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า 

จากทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการที่จะแก้ไขหรือยกเลิก ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี และผ่านการปรึกษาในเรื่องมาตรา 112 มาหลายครั้ง นายทักษิณ ระบุว่า มาตรา 112 มีมานานตั้งแต่สมัย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ น่าจะประมาณปี 2500 ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบุคคลในกระบวนการยุติธรรมอาจจะเกิดจากความกลัวหรืออาจจะเกิดจากความอยากแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ยึดหลักนิติธรรม แล้วเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือ Abuse of Power เพื่อหวังผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรัฐบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง เลยทำให้เกิดความไม่พอใจ และยิ่งใช้มากก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจมาก ซึ่งสมัยก่อนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องที่ร้องเรียนขึ้นมาว่าเป็นเรื่องของการจงใจที่จะละเมิดมาตรา 112 จริงหรือเปล่า และจำนวนคดีก็มีน้อย ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาทางอาญา (Due Process of Law) ฉะนั้นปัญหาก็น้อย

แต่ช่วงนี้ปัญหาเยอะมาก ยิ่งใช้อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความโกรธเคืองแล้วก็ไปโทษกันต่างๆ นานา ซึ่งเคยบอกแล้วว่ารัฐบาลน่าจะจับเข่าคุยกับกลุ่มเยาวชนที่เห็นต่างในทุกวันนี้ ก็จะได้แนวทางที่อยู่ร่วมกันระหว่างคนในวัยที่ต่างกัน ถ้าจะเริ่มติดกระดุมใหม่ที่ติดผิดเม็ด ก็โดยการที่ปรับกระบวนการในการดำเนินคดีของมาตรา 112 เสียใหม่ ให้เหมือนในอดีตที่ทำอย่างเป็นระบบระเบียบ ไม่กลั่นแกล้ง ไม่หาเรื่อง แล้วก็ปล่อยผู้ถูกกล่าวหาให้ได้รับการประกันและใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไป และพูดคุยกับเด็กๆ จะได้เข้าใจตรงกัน เราจะอยู่ร่วมกันต้องมีกติกา กติกาอะไรที่มันยอมรับกันได้ทุกฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะบอกว่ายกเลิกมาตรา 112 เพราะอารมณ์โกรธ จากอารมณ์โกรธ หรือบางคนก็ต้องการจะยกเลิกโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่ยกเลิกมาตรา 112 ไม่เอาเด็ดขาด ซึ่งแน่นอนมันมี Yes and No แต่ขณะเดียวกันนั้น การพูดคุยกันน่าจะดีกว่า และการจัดระเบียบให้เป็นระเบียบเสียจะดีกว่า วันนี้บ้านเมืองเหมือนกับอยู่ในภาวะที่ไม่มีการจัดการ ไม่มีการบริหาร บ้านเมืองเปรียบเสมือนอยู่ในภาวะไม่มีการบริหารการจัดการ คงเลือกใช้แต่ Law and Order ซึ่งเป็นการขัดหลักที่จะให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีไม่แตกแยก

“ดังนั้นสรุป ผมขอแนะนำว่าก่อนจะมาบอกว่าจะแก้มาตรา 112 หรือไม่ ขอให้ไปเริ่มย้อนคิดว่า เมื่อตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคมต่างหาก ถ้ามีการจัดระเบียบให้ถูกต้อง และมีการพูดคุยกับผู้เห็นต่างบ้าง ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และนำไปสู่การรักษากฎหมายที่เป็นธรรม และก็จะไม่มีใครเดือดร้อน

‘ประวิตร’ ยัน พลังประชารัฐ มีจุดยืน ไม่แก้ ม.112

ประวิตร เผยจุดยืนของ พลังประชารัฐ ต่อการแก้ ม.112 และ ม.116 ย้ำไม่ร่วมแก้ ม.112 แน่นอน แต่รับฟังข้อคิดจากประชาชน ช่วยเหลือให้กินดีอยู่ดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ตามคำขอของกลุ่มราษฎรที่ออกมาชุมนุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค.

ว่าพรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนชัดเจน เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ คือจะต้องดำเนินการเป็นไปตามที่พรรคได้ให้ไว้ เกี่ยวกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องอยู่ต่อไป เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ได้สร้างประเทศชาติ พรรคพลังประชารัฐไม่เอาด้วยแน่นอน แต่เราจะรับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนทั่วไป เราจะช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดี ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ ที่หลายพรรคการเมืองมาเล่นประเด็นนี้กันมากขึ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมไม่ทราบคุณลองไปถามเขาดู” เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงหรือไม่หากอภิปรายในสภาฯในเรื่องนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ห่วง ฝ่ายรัฐบาลจะต้องดำเนินการและทุกพรรคต้องร่วมกัน

ก่อนหน้ารัสเซียประกาศสงครามเพียง 1 วัน 23 ก.พ. 2565  กองทัพยูเครนได้ประกาศเปิดรับเกณฑ์ทหารกองหนุน สำหรับผู้ที่มีอายุ 18-60 ปี เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ตามมาตรการนายโวโลดิเมียร์ ประธานาธิบดียูเครนที่ได้ประกาศก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมรับมือเมื่อกองทัพรัสเซียเคลื่อนตัวเข้าประเทศ

ด้านความเคลื่อนไหวของนานาประเทศ ภายหลัง รัสเซียประกาศสงคราม โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงกล่าวว่าทางการรัสเซียได้โจมตีอย่างไม่ยุติธรรมและปราศจากการยั่วยุ พร้อมชี้ว่า ผู้นำปูตินได้เลือกจะก่อสงคราม ที่จะนำไปสู่การเสียชีวิตและนำมาสู่ความยากลำบากของมนุษย์ ประเทศรัสเซียเป็นต้นเหตุของความตายและการทำลายล้าง ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ จะทำให้สหรัฐฯและกลุ่มพันธมิตร โต้ตอบอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และ อย่างเด็ดขาด พร้อมย้ำว่ารัสเซียจะต้องชดใช้ นาย ไบเดน กล่าวอีกว่า เขาจะประกาศถึงบทลงโทษของรัสเซียในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเขาจะหารือกับกลุ่มประเทศสมาชิกใน G7 เพื่อหารือถึงมาตรการคว่ำบาตรต่อไป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป